จุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง “มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน”  ในปีพ.ศ. 2529 พลตรีกวี คัมภีรญาณ รองผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ได้เข้ารับการรักษาผ่าตัดจอประสาทตาลอก โดยแพทย์หญิงโสมสราญ  วัฒนะโชติ ณ โรงพยาบาลราชวิถี จนกลับมามีสายตาปกติ ท่านได้เห็นความทุกข์ยากของผู้ป่วย  รวมทั้งความยากลำบากของแพทย์และพยาบาลที่รักษาคนไข้ด้วยงบประมาณที่ไม่เพียงพอ  จึงได้รวบรวมเงินกับเพื่อนๆ โดยเฉพาะจากท่านผู้หญิงทัศนาวลัย  ศรสงคราม และคุณสินธู  ศรสงคราม ได้จำนวนเงิน 305,500 บาท  มาใช้จัดตั้งเป็นกองทุนโดยมีชื่อว่า “มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาราชวิถี”

​

     วันที่ 17 ตุลาคม 2532 สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้อนุญาตให้จัดตั้ง มูลนิธิฯ อย่างเป็นทางการ

 วันที่ 18 ตุลาคม 2537  กระทรวงมหาดไทย ได้อนุญาตการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง ชื่อเป็น “มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน” โดยได้รับการสนับสนุนสถานที่ในศูนย์จักษุ จากโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นสำนักงานของมูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน

วันที่ 16 สิงหาคม 2538 กระทรวงการคลังได้ประกาศตามประกาศกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 34 กำหนดให้มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามมาตรา 47 (ก)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นองค์การสาธารณกุศลลำดับที่ 279 ดังนั้นเงินค่าบริจาคที่ให้กับมูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน จึงนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้ได้ตามกฎหมาย

​

     วัตถุประสงค์ของการเป็น “มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน” เพื่อกระจายบริการรักษาโรคตาออกสู่ชุมชนทุกระดับ  สนับสนุนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกสถานพยาบาล  ให้มีความรู้เกี่ยวกับตา  เพิ่มพูนความรู้ และสนับสนุนการวิจัยเพื่อการรักษาผู้ป่วยโรคตาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น  ซึ่งมูลนิธิฯ  ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปทำการรักษาผ่าตัดต้อกระจกเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมในถิ่นทุรกันดารให้กับผู้ยากไร้เป็นประจำทุกเดือนมาตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิฯ จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 30 ปี (นับจากวันที่ได้อนุมัติให้เป็นมูลนิธิ) สามารถผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมได้ทั้งสิ้น 46,028 ดวงตา

ในทุก ๆ ปี PECF จะเดินทางไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 10-12 ครั้ง ทั้งในประเทศไทยและประเทศพม่า 

​

​